เริ่มตั้งแต่การสร้างอินทรีย์รองรับมรรคเป็นต้นมาจนถึงการสร้างมรรคให้เกิดขึ้น ในขณะที่บำเพ็ญเพียรอยู่ในนั้น จึงจำเป็นต้องฝึกจิตให้มีไตรลักษณ์เกิดขึ้นตลอดเวลา และต้องพัฒนาไตรลักษณ์ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป คือสติและปัญญาต้องจัดการ
เพียรฝึกหัดจิตให้เห็นอนิจจัง ที่ปรากฏอยู่ในอารมณ์กัมมัฏฐานทั้งปวงว่าเป็นอนิจจัง ไม่อัตตา คือบังคับอารมณ์กัมมัฏฐานให้เป็นไปตามกิเลสตน ตามที่ตนชอบหรือไม่ชอบ
เพียรฝึกจิตให้เห็นทุกขัง ที่ปรากฏอยู่ในอารมณ์กัมมัฏฐานว่าเป็นทุกขัง คือเพียรฝึกจิตให้เห็นสภาวะที่คงทนคงที่ได้ยาก ทนไม่ได้ต้องเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่วิปลาสจนมีอัตตาบังคับให้หยุด บังคับให้ชัดเจน บังคับให้เกิด ตามกิเลสแห่งอัตตาของตน
เพียรฝึกจิตให้เห็นอนัตตา ที่มีปรากฏอยู่ในอารมณ์กัมมัฏฐาน ว่าเป็นอนัตตา กล่าวคือเมื่อรู้นามสังขารเกิดเอง ก็เห็นด้วยปัญญาว่าเกิดเอง เมื่อบังคับไม่ได้ ก็ไม่บังคับ เปลี่ยนแปลงก็กำหนดรู้ได้ด้วยปัญญาว่าเปลี่ยนแปลง สลายไปดับไปก็กำหนดรู้ว่าสลายไปดับไป
จิตไม่สะอาดก็กำหนดรู้ว่าจิตไม่สะอาด มรรคไม่เกิดก็กำหนดรู้ด้วยปัญญาว่ามรรคไม่เกิด มรรคเกิดก็กำหนดรู้ด้วยปัญญาว่ามรรคเกิด จิตสะอาดก็กำหนดรู้ด้วยปัญญาว่าจิตสะอาด ไม่บังคับบัญชา มีความเพียร ให้จิตเป็นไตรลักษณ์ ไม่ให้จิตมีความวิปลาสตรงข้ามกับไตรลักษณ์
หลวงพ่อชัชวาล ชินสโภ
ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-08
หน้า 1 |