สุขใจที่เกิดพร้อมวิตกก์ วิจาร เป็นอย่างไร.สุขที่เกิดพร้อมวิตกก์ วิจาร


สุขใจที่เกิดพร้อมวิตกก์ วิจาร เป็นอย่างไร
.
สุขที่เกิดพร้อมวิตกก์ วิจาร
ถึงจะเป็นสุขที่เกิดพร้อมกับจิตตัสเสกัคคตา
(ความเลิศเป็นหนึ่งแห่งจิต) คือเป็นสมาธิ
แต่ก็เป็นสมาธิที่ยังมีกิเลสอาศัยอยู่
.
ตัวอย่างเช่น อาการคิดปรากฏขึ้น
จิตเข้าจับอาการ ผัสสะเกิด
การเสวยอาการคิดเกิด
เจตนาจิตมุ่งอยู่ที่อาการคิด
วิตกก์ การตามรู้อาการคิด
วิจาร การรู้ตามอาการคิด
ปีติ ความรู้สึกตื่นแช่มชื่นขณะจับอาการคิด
สุข ความเบียดเบียนขณะจับอาการคิดไม่มี
เป็นกลางอยู่กับอาการคิด
.
สรุปแล้ว...เพียงแค่สัมผัสอารมณ์ครั้งแรก
สุข...ได้เกิดมาพร้อมเรียบร้อยแล้ว
สมาธิ...ความเลิศเด่นเป็นอารมณ์เดียวแห่งจิต
อยู่ที่อาการคิด ก็มีเรียบร้อยแล้ว
.
ถ้ามีคำถามว่า...อาการคิดนี่เป็นอาการของอุทธัจจะ
ความฟุ้งหรืออวิเขปะความสงบ
คิดคือฟุ้ง...เป็นอุทธัจจะใช่ไหม
ความฟุ้งเป็นอาการของการเสียสมาธิ
หรือว่ามีสมาธิ...เสียสมาธิใช่ไหม
เป็นอาการของโมหะกิเลสหรือ
ปราศจากโมหะกิเลส เป็นโมหะกิเลสใช่ไหม
.
ดังนั้นถึงจิตจะมุ่งสู่อารมณ์เดียวที่คิด เป็นสมาธิอยู่
แต่นั่นเป็นสมาธินอกพื้นที่ของมรรค
เพราะคิดนั้นเองเป็นอาการฟุ้งด้วยโมหะกิเลสอยู่
ถึงแม้ขณะแรกที่จิตมุ่งจับที่อาการคิดจะเป็นอารมณ์เดียวอยู่
ไม่ฟุ้งไปอารมณ์อื่น
.
แต่ก้อนอัตตาคิดนั้นเองเป็นอาการฟุ้ง
เมื่อจิตไปจับอาการคิด จึงเป็นการจับอาการฟุ้ง
อาการฟุ้งคิดจึงปรุงแต่งจิต
ให้รู้สึกคิดฟุ้งตามอาการคิดไปด้วย
กล่าวคือ ถึงแม้จะอยู่ในอารมณ์ที่คิดเพียงอารมณ์เดียว
ไม่ได้ฟุ้งไปอารมณ์อื่นเลยแต่คิดนั้นคือฟุ้ง
คืออุทธัจจะ ฟุ้งด้วยอำนาจโมหะกิเลสที่อาศัยอยู่ภายในคิดนั้นเอง
.
ด้วยเหตุนี้...เมื่อใดที่จิตอยู่กับคิด เมื่อนั้นจึงเป็นจิตฟุ้ง
ดังนั้นสุขที่เกิดขึ้นกับจิตชนิดนี้
ยังเป็นสุขที่จิตฟุ้งเพราะมีกิเลสอยู่
ถึงแม้เราจะมีสติตามรู้อยู่ ตามเห็นอยู่
มีสัมปชัญญะเป็นสัญญารู้ตามอยู่ เห็นตามอยู่ อย่างนี้
.
บัณฑิตทั้งหลายเรียกเพียงว่า "อุทาสีโน"
คือตามรู้และรู้ตามเฉย ๆ เท่านั้น
ยังไม่ถือว่ามี "สติสัมปชาโน"
คือสติและปัญญาในภาวนามยปัญญายังไม่มี
เพราะยังฟุ้งอยู่ด้วยโมหะกิเลส
เพราะฉะนั้นสุขชนิดนี้
ท่านจึงเรียกว่าเป็นสุขที่ปราศจากสติ
ด้วยประการฉะนี้
.
ธรรมเทศนาโดย
หลวงพ่อชัชวาล ชินสโภค


ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-08