วิตกก์ และวิจาร ในภาคปฏิบัติเพื่อทำให้มรรค๘ เกิดคืออย่างไร?.คำว่าวิตกก์


วิตกก์ และวิจาร ในภาคปฏิบัติเพื่อทำให้มรรค๘ เกิดคืออย่างไร?
.
คำว่าวิตกก์ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตานั้น คงต้องทำความเข้าใจสักเล็กน้อย เพราะศัพท์แสงเหล่านี้ในภาษาของพระพุทธเจา อาจจะไม่ตรงกับภาษาที่เราเข้าใจและใช้กันอยู่ หลักฐานเหล่านี้มีปรากฏจารึกไว้ในธัมมสังคณี บทภาชนีย์ จิตตุปปาทกัณฑ์ว่า
.
รูปารมฺมณํวา สทฺทารมฺมณํวา คนฺธารมฺมณํวา
รสารมฺมณํ วา โผฏฺฐพฺพารมฺมณํ วา ธมฺมารมฺมณํ วา
ยํ ยํ วา ปนารพฺภ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ เวทนา
โหติ สญฺญา โหติ เจตนา โหติ จิตฺตํ โหติ วิตกฺโก โหติ
วิจาโร โหติ ปีติ โหติ สุขํ โหติ จิตฺตสฺเสกคฺคตา โหติ
.
ในที่นี้จะเห็นได้ว่า รูปปรมัตถ์ ได้แก่ อาการเห็น อาการได้ยิน อาการได้กลิ่น อาการรู้รส อาการถูก โดน ชน กระทบ เคลื่อน นิ่ง อาการเจ็บ ปวด มึน ชา คัน เมื่อย ร้อน เย็น แน่น ตึง เป็นต้น
.
อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งที่จิตไปปรารภ คือจิตไปจับ ในเวลานั้นการสัมผัส การเสวยอารมณ์ การรู้จักอารมณ์ จิตมุ่งสู่อารมณ์ ความรู้สึก การตรึกตามรู้อารมณ์ การตรองรู้ตามอารมณ์ (ปีติ สุข) ความเป็นเลิศอารมณ์เดียวแห่งจิต ย่อมมีแล้ว
.
ในบาลีข้างต้นจะเห็นได้ว่า เพียงแค่รู้ผัสสะหรือเสวยอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง วิตกก์ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตาก็มีบริบูรณ์เรียบร้อยแล้ว วิตกก์ในความหมายนี้ เป็นเพียงแค่การ ?ตามรู้? อารมณ์ เพื่อเป็นปัจจัยของวาจาเท่านั้น
.
วิตกก์จึงเป็นการตามรู้อารมณ์ก่อนที่จะกำหนดและถึงแม้ เนกขัมมวิตกก์ พรากกามแล้ว ไม่มีกาม อัพพยาปาทวิตกก์ ไม่มีพยาบาท อวิหิงสาวิตกก์ ไม่มีเบียดเบียนแล้ว เป็นกุศลวิตกก์แล้วก็จริง แต่โมหะที่เกิดร่วมกับวิตกก์นั้นยังมีอยู่ ถึงจะเป็นอารมณ์เดียว เป็นสมาธิจิตสงบเป็นจิตวิเวกอยู่ก็ตาม
.
แต่เมื่อขณะนั้นไม่มีมรรค ๘ คุ้มครอง จึงยังมีส่วนที่โมหะอาศัยอยู่ได้ สาเหตุเพราะความเพียรทางจิตและสติยังพัฒนาให้เจริญได้ไม่เพียงพอ
ผู้ต้องการความก้าวหน้าจึงจำเป็นต้องพัฒนาให้จิตและสติมีความเพียรเพิ่มขึ้น จนถึงขั้นจิตและสติกำหนดอารมณ์ได้เองโดยอัตโนมัติ ดังนั้นในที่นี้ความหมายของวิจารคือ ถ้าวิตกก์ ?ตามรู้? อารมณ์ใด วิจารก็ ?รู้ตาม? อารมณ์ที่วิตกก์รู้นั้น
.
ธรรมเทศนาโดย
หลวงพ่อชัชวาล ชินสโภ


ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-08