การตามกำหนดรู้เวทนาอย่างหนึ่งในเวทนาทั้งหลายคืออย่างไร..พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า 
.
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ อาศัยอยู่ด้วยการตามกำหนดรู้เวทนาอย่างหนึ่งในเวทนาทั้งหลาย ด้วยความเพียร ด้วยปัญญา ด้วยสติ พึงขจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย
.
บรรดาเวทนานั้นมีมากมาย ทั้งสุขเวทนา การเสวยอารมณ์ที่เกิดจากสุขคือกิเลสดับ ทุกขเวทนา การเสวยอารมณ์ที่เกิดจากทุกข์คือกิเลสเกิด อทุกขมสุขเวทนา การเสวยอารมณ์ที่เป็นกลางเพราะกิเลสเกิดไม่มีและสุขเพราะกิเลสดับก็ไม่มี
.
กำหนดอยู่กับอารมณ์ที่เป็นมัชฌิมาหรือที่เรียกว่า ?กามาวจรกุศล? อยู่เช่น
รูปารมฺมณํ วา "อาการเห็น" สทฺทารมฺมณํ วา "อาการได้ยิน" คนฺธารมฺมณํ วา "อาการได้กลิ่น" รสารมฺมณํ วา "อาการรู้รส" โผฏฐพฺพารมฺมณํ วา "อาการถูก โดน ชน กระทบ เคลื่อน นิ่ง" ธมฺมารมฺมณํ วา "อาการเจ็บ ปวด มึน ชา คัน เมื่อย ร้อน เย็น แน่น ตึง และอื่น ๆ เป็นต้น ยํ ยํ วา ปนารพฺภ ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ เวทนา โหติ
.
ยํ ยํ วา ปนารพฺภ อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งก็ตาม แม้เริ่มรับรู้ ตสฺมึ สมเย ในเวลานั้น ผสฺโส โหติ กำลังสัมผัสอยู่ เวทนา โหติ กำลังเสวยอารมณ์อยู่การเสวยอารมณ์ที่เป็นอทุกขมสุขหรือมัชฌิมาอย่างนี้ เกิดขึ้นด้วยการทำให้มรรค ๘ องค์เกิด เป็นกิจเป็นงานเบื้องต้นของผู้ทำกัมมัฏฐาน
.
ผู้หวังความสำเร็จในการศึกษาวิชาการตรัสรู้ เพื่อดับทุกข์ของพระพุทธเจ้าทุกคน จะต้องทำให้เรียบร้อยบริบูรณ์อย่างชนิดไม่มีที่ติ จึงจะสามารถปฏิบัติเข้าสู่ความเป็นมัชฌิมาชั้นสูงถึงสูงสุด เข้าสู่มรรคผลนิพพานได้
.
คือการดับอนุสัยกิเลสที่ละเอียดสุขุมลุ่มลึก ซึ่งแฝงฝังอยู่ในจิต ด้วยโลกุตตรมรรคทั้ง ๔ อันมีโสดาปัตติมรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตตมรรคตามลำดับเท่านั้น
.
ธรรมเทศนาจาก
หลวงพ่อชัชวาล ชินสโภ
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมจักร
ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-08
หน้า 1 |