การตามกำหนดรู้กายอย่างหนึ่งในกายคืออย่างไร..พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า"กาเย


การตามกำหนดรู้กายอย่างหนึ่งในกายคืออย่างไร.
.
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
"กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ"
อาศัยอยู่ด้วยการตามกำหนดรู้กายอย่างหนึ่งในกาย
ในความหมาย"กายอย่างหนึ่งในกายนั้น"
แสดงให้เห็นว่ามีกายเยอะแยะอยู่ในกาย
.
ทรงให้ตามกำหนดรู้ทีละกายที่ปรากฏจริงในขณะนั้น
ถ้าตีความตามกายบัญญัติในคำว่า
"กาเย" ซึ่งแปลว่า ในกายนั้น
จะหมายถึงร่างกายหนึ่งเป็นเอกพจน์
เป็นกายใหญ่หรือเป็นกายหลัก
.
"กายานุปสฺสี" แปลว่า ตามดู ตามรู้ ตามเห็นร่างกายหนึ่ง
ถ้าแปลตามศัพท์เต็มๆ จะได้ว่า
อาศัยตามรู้ร่างกายหนึ่งในร่างกายหนึ่ง
ซึ่งเป็นกายใหญ่หรือกายหลัก
.
เลยมีผู้ตีความไปว่าในร่างกายนั้น
มีร่างกายเล็กๆ ร่างกายหนึ่งบ้าง
หรือบางท่านก็ตีความว่าน่าจะมีหลายๆ ร่างกายบ้าง
หรือบางท่านก็ว่าไม่ใช่อย่างนั้น
.
แต่เป็นร่างกายละเอียดๆ ประณีตบ้าง
ร่างกายทิพย์ ร่างกายธรรม อาศัยอยู่ในกายหลักบ้าง
.
เมื่อเป็นดังนี้ จึงเกิดความเห็นในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในส่วนนี้ถูกแตกแยกออกไปตามความคิดคาดคะเน
เอาปัญญาแห่งตน มิใช่ตามการเห็นแจ้งด้วยดวงตา
วิปัสสนาญาณแต่ประการใด
.
การแตกแยกด้วยธรรมทิฏฐิ คือเห็นธรรมที่ต่างกันจึงเกิดขึ้น
ทำให้ความเป็นปึกแผ่น มั่นคง คมชัด
ในธรรมถูกทำลายลงไป
.
นักศึกษาผู้ดำเนินชีวิตด้วยปัญญานำทั้งหลาย
จึงเกิดความสับสน ลังเล สงสัย ไม่แน่ใจ ขาดความมั่นใจ
ไม่สามารถคลำหาประตูเข้าสู่ศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ถูกต้อง
.
ดังนั้นการประกาศพระศาสนาด้วยธรรมทิฏฐิ
ตามความคิดคาดคะเนของท่านเหล่านั้น
จึงกลายพันธุ์ไปเป็นการประกาศความวิเศษ
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับกลุ่มผู้ที่นับถือภูตผี
ปีศาจ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หรือไสยศาสตร์
.
ด้วยประการฉะนี้จะเห็นได้ว่า
จากระบบการเอากิเลสออกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เลยกลายไปเป็นระบบเอากิเลสเข้า
.
ระบบอนัตตาของพระพุทธเจ้าก็กลายเป็นอัตตาไป
ถึงแม้จะอ้างว่าอนัตตา ก็เป็นเพียงจินตามยปัญญา
คือ คิดเอา นึกเอา คาดเดาเอา
.
แม้จะเรียกว่า "วิปัสสนา"ก็เป็นเพียงแต่ชื่อเท่านั้น
มิใช่วิปัสสนาตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์
และพระพุทธสาวก อนุพุทธสาวก ได้สั่งสอนแนะนำ
สืบกันต่อๆ มาตามอริยประเพณี
.
ธรรมเทศนาจาก
หลวงพ่อชัชวาล ชินสโภ
ประธานสงฆ์วัดพระธรรมจักร


ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-08