สังกัปปะในมรรค๕ และ มรรค๘ ต่างกันอย่างไร?สังกัปปะคือการตามรู


สังกัปปะในมรรค๕ และ มรรค๘ ต่างกันอย่างไร?

สังกัปปะคือการตามรู ้อาการพอง ในขณะที่พองขึ้นมา เรารู้ว่าพอง แสดงว่าการตามรู้มาแล้ว ถ้ารู้เพียงแค่นี้ ถึงจะเป็นสัมมาสังกัปปะที่ถูก แต่ก็เป็นเพียงสังกัปปะโดยเหตุ
.
คือเหตุที่ทำให้มรรค ๘ เกิดเท่านั้น สรรพสัตว์ทั่ว ๆ ไปทุกภพชาติมีเอง ทำได้เองอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ไม่ต้องใช้ความสามารถอะไร ไม่ต้องอาศัยผู้ตรัสรู้อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระสาวกสัมพุทธเจ้าสอนก็ได้ ใช่หรือเปล่า
.
ในระดับนี้สัมมาทิฏฐิ จะเห็นเพียงทุกข์กับเหตุแห่งทุกข์คือสมุทัยเท่านั้น
.
สัมมาสังกัปปะ : จะเป็นเพียงตามรู้ความรู้สึกกับอาการ คือตามรู้ทุกข์และเหตุแห่งทุกข์
.
สัมมาวายามะ ความเพียรจะเป็นเพียงจิตมุ่งจับตามความรู้สึกกับอาการที่เห็น ซึ่งเป็นการมุ่งตามทุกข์และเหตุแห่งทุกข์ไปเท่านั้น
สัมมาสติ จะเป็นเพียงตามดู ตามรู้ความรู้สึกกับอาการซึ่งเป็นทุกข์และเหตุแห่งทุกข์เท่านั้น
.
สัมมาสมาธิ จะเป็นเพียงแค่จิตมุ่งตามรู้ความรู้สึกกับอาการ ตามความเลิศเด่นเป็นที่หนึ่งของอารมณ์นั้นอยู่
.
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ตรัสเรียกว่ามีสติ ในมหาสติปัฏฐานทรงเรียกว่า ยาวเทว ญาณมตฺตาย คือแค่สักว่าอาศัยรู้ตามเท่านั้น ซึ่งตรงตามในธัมมจักกัปปวัตตนสูตรว่า ญาณกรณี ทำการรู้ให้เกิดขึ้น
.
คนไม่ทำกัมมัฏฐานก็ทำได้ใช่ไหม ไม่ต้องมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เขาก็ทำได้ ทั้งหมดนี้เป็นได้แค่พื้นฐานเบื้องต้นที่จะรองรับมรรค ๘ เท่านั้น
.
ในมหาสติปัฏฐานตรัสไว้คู่กับ ปฏิสฺสติมตฺตาย ซึ่งแปลตามรูปศัพท์จะได้ความว่า เพียงสักว่าสติเห็นการทวนกลับ คือในตอนแรกผู้ปฏิบัติจะเห็นกาย เวทนา จิต หรือธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นมา
.
แต่ตอนนี้เห็นการกลับออกไปสู่ความดับ ตรงกับที่ตรัสไว้ในคิริมานนทสูตรว่า
ปฏิสญฺจิกฺขติ มีความหมายว่า เห็นพร้อมกับการทวนกลับออกไปของรูปนามสังขาร ซึ่งจะเกิดเหตุการณ์นี้ได้ด้วยการทำให้มรรค ๘ เกิดเท่านั้น ที่อริยบัณฑิตาจารย์ทั้งหลายเรียกว่า ?กำหนด? นั่นเอง
.
และหากยังไม่ทำให้มรรค ๘ เกิด ยังไม่ชื่อว่าเป็นสัมมาสังกัปปะ เพราะยังไม่มีพลานุภาพ ศักดานุภาพมากเพียงพอที่จะขจัดหรือป้องกันกิเลสเหตุแห่งทุกข์ใด ๆ ได้
.
ตัวอย่างเช่น คิดเกิดขึ้นมา มีความรู้สึกคิดไหม มีแสดงว่าเห็นทุกข์แล้วใช่ไหม มีอาการคิดไหม มี แสดงว่าเราเห็นเหตุแห่งทุกข์แล้วใช่ไหม
.
ในขณะนั้นการตามรู้ความรู้สึกคิด กับอาการคิดมีหรือยัง มีแล้วใช่ไหม แสดงว่าสังกัปปะมีหรือยัง มีแล้ว
.
ในขณะนั้นจิตก็มุ่งไปตามความรู้สึกคิดกับอาการคิด แสดงว่าความเพียรมีหรือยัง มีแล้ว
.
ในขณะนั้นสติตามรู้ความรู้สึกคิดและอาการคิดหรือยัง ตามรู้แล้ว แสดงว่าสติมีแล้วใช่ไหม
.
ในขณะนั้นจิตคือความรู้สึกมุ่งจับอยู่ที่อารมณ์คิด ซึ่งเลิศเด่นเป็นที่หนึ่งอยู่แล้วใช่ไหมแสดงว่ามีสมาธิเกิดหรือยัง มีแล้ว
.
แต่ในขณะนั้นกำลังคิดอยู่นะ แสดงว่าขณะนั้นสงบอยู่หรือฟุ้งอยู่ ดังนั้นสมาธิชนิดนี้ จึงยังไม่ใช่สมาธิถูกต้องที่จะนำไปสู่การตรัสรู้ได้ มรรคเกิดได้แค่ ๕ องค์หายไป ๓ องค์ และแต่ละองค์ก็เป็นแค่เบื้องต้นเท่านั้น
.
โมหะกิเลสยังอาศัยอยู่ ยังไม่เป็นกุศล ยังไม่สมบูรณ์ จึงเป็นแค่เบื้องต้น หรือเป็นแค่เหตุปัจจัยที่จะทำให้มรรค ๘ เกิดเท่านั้น ยังไม่ใช่สมาธิในสมถะ ที่จะใช้รองรับวิปัสสนา วิชาการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได ้
ดังนั้นจงตั้งใจ..ติดตามดูกันต่อไป

หลวงพ่อชัชวาล ชินสโภ
อธิบดีสงฆ์ แห่งพุทธวิหารศูนย์กลางการศึกษาวิปัสสนาธุระ


ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-08