* ผู้สนใจปฏิบัติธรรมโปรดตรวจสอบตารางการปฏิบัติธรรมและมาให้ตรงช่วงเวลาที่ทางศูนย์ฯ กำหนดไว้ เพื่อที่ทางศูนย์ฯ จะได้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับทุกท่านได้อย่างเต็มที่
คุณสมบัติของผู้สมัคร
- อายุ 15 ปีขึ้นไป (ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ควรสมัครเข้าปฏิบัติในหลักสูตรสำหรับเด็กและเยาวชน)
- มีรางกายสมบูรณ์ แข็งแรง ช่วยเหลือตัวเองได้
- มีสุขภาพจิตปรกติ ไม่เป็นโรคประสาท โรคจิต ลมชัก ลมบ้าหมู หรือร่างทรง
- ไม่ติดสิ่งเสพติดทุกชนิด
- ปฏิบัติตามกฏระเบียนโดยเคร่งครัด
ระเบียบการรับสมัคร
- เขียนจดหมายแสดงความจำนง ขอระเบียบการและใบสมัครพร้อมทั้งสอดซองเปล่าติดแสตมป์ 3 บาท จ่าหน้าถึงตัวท่านเอง ส่งถึงผู้อำนวยการศูนย์ฯ เลขที่ 100/1 หมู่1 ต.ดงละคร อ.เมือง จ. นครนายก 26000 (หรือขอรับระเบียบการ และใบสมัครตนเอง)
- หากนักปฏิบัติยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องได้รับอนุญาติจากมารดา บิดา สามี หรือผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์ อักษรในใบสมัคร
- ยื่นใบสมัครพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาฃนเป็นหลักฐาน ในวันรับสมัคร เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลหากท่านมีคุณสมบัติตามที่ศูนย์ตามที่ศูนย์กำหนดท่านจะได้รับใบตอบรับไว้เป็นหลักฐานในการลงทะเบียน
- ผู้ที่สมัครแล้วมาไม่ได้ กรุณาแจ้งให้ศูนย์ทราบก่อนวันเข้าปฏิบัติอย่างน้อย 7 วันเพื่อศูนย์จะได้แจ้งให้ผู้ที่เป็นสำรองได้เข้าปฏิบัติแทน
- ผู้สมัครและผู้เข้าปฏิบัติต้องเป็นคนเดียวกัน
การเตรียมตัวเตรียมใจ
- ไม่นำภารกิจไปด้วย ตัดความกังวลในทุกๆ เรื่อง
- จะละทิ้งยศศักดิ์ ฐานะ ตำแหน่งไว้ที่บ้าน
- จะตั้งใจปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ
การเตรียมของใช้
- เตรียมชุดขาวแบบและสีสุภาพ เป็นกางเกงขายาว กระโปรงขาวครึ่งน่อง หรือซิ่น
- เตรียมของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หวี
- ยาประจำตัวที่จำเป็น
- เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อใช้ในการลงทะเบียน
- เตรียมนาฬิกาปลุกและนาฬิกาจับเวลามาเอง
ข้อแนะนำ
- ไม่นำขนมและอาหารไปด้วย
- ไม่สวมเครื่องประดับใดๆ
- งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
- ทำตนให้เป็นผู้อยู่ง่าย กินง่าย มีความเกรงใจและให้เกียรติผู้อื่น
กฏ ระเบียบ และข้อบังคับในการปฏิบัติ
- เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของวิปัสสนาจารย์อย่างเคร่งครัด
- มีความตั้งใจ อดทน และมีวิริยะ ในการเรียนการสอน ให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อเนื่องในช่วงที่เข้าปฏิบัติ
- ไม่โทรศัพทื และไม่ติดต่อกับใครตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและต้องได้รับอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน หรือเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ เพื่อพิจารณาตาม่ความเหมาะสมก่อน
- ผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจะต้องแสอดงความจำนงเป็นลายลักษณ์อักษรในใบสมัครซึ่งทางศูนย์ฯจัดเตรียมไว้ให้ ต้องมีบัตรประชาชน หรือใบสำคัญแสดงสัญชาติ อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่กรณี เพื่อแสดงแก่อาจารย์ ผู้ปกครองของศูนย์ฯ จนเป็นที่พอใจ หรือ กรณีที่จำเป็ก็ให้มี วิปัสสนาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ รับรอง
- ผู้สูงอาจุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งไม่ม่ผู้ปกครองมาด้วย(ยกเว้นได้รับอนุญาต) ผู้ป่วยโรคจิต โรคติดต่อ โรคที่สังคมรังเกียจ ทางศูนย์ฯไม่สามารถรับไว้ปฏิบัติธรรมได้ สำหรับผู้ที่มีอวัยวะไม่สมบูรณ์ให้อยู่ในดุลยพินิจของวิปัสสนาจารย์
- ห้ามคุย บอก หรือถามสภาวะกับผู้ปฏิบัติ เพราะจะเป็นภัยแก่ผู้ที่กำลังปฏิบัติทั้งต่อตนเองและผู้อื่น โดยจะทำให้อารมณ์ฟุ้งซ่าน และเสียสมาธิ อันจะทำให้ผลการเรียนเสื่อม หากมีความสงสัยในหัวข้อวัตรปฏิบัติอย่างไรแล้ว ให้เก็บไว้สอบถามครูผู้สอน ห้ามสอบถามผู้ปฏิบัติด้วยกันเป็นอันขาด
- ขณะที่ยังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติ ห้ามสวดมนต์ อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์
- ผู้ปฏิบัติจะต้องงดเว้นจากของเสพติดทุกชนิด ได้แก่ กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน บุหรี หมาก เครื่องดองของมึนเมา หรือนำยาเสพติดทุกชนิด เข้ามาในบริเวณศูนย์ฯเป็นอันขาด
- หากผู้ปฏิบัติเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว เพื่อหาทางช่วยเหลือตามสมควรแก่กรณี ไม่ควรละเว้นการปฏิบัติ หากไม่มีความจำเป็น
- นักปฏิบัติจะต้องระลึกเสมอว่า เรามาปฏิบัติเพื่อยกระดับจิตใจ ขัดเกลากิเลสตัณหาให้เบาบางลง มิใช่มาเพื่อหาความสุข ในการอยู่ดี กินดี จึงต้องใช้ความอดทนเป็นพิเศษต่อความไม่สะดวย และกระทบกระทั่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องทดสอบ และความอดทนและคุณธรรมของนักปฏิบัติว่ามีอยู่มากน้อยเพียงใด
- ห้องหรือกุฏิที่จัดไว้เป็นห้องปฏิบัติ เฉพาะพระสงฆ์ก็ดีหรือห้องที่จัดไว้เฉพาะนักปฏิบัติที่เป็นบุรุษก็ดี สตรีก็ดี ห้ามมิให้เพศตรงข้ามเข้าไปนอน หรือใช้ห้องน้ำ ห้องส้วม โดยเด็ดขาด
- นักปฏิบัติจะต้องอยู่ในบริเวณที่กำหนดให้เท่านั้น ถ้าไม่มีธุระจำเป็น ไม่ควรออกนอกสถานที่ปฏิบัติ และถ้ามีธุระจำเป็นต้องออกจากศูนย์ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเสียก่อน
- ทางศูนย์ฯได้จัดที่พักไว้โดยเฉพาะเป็นห้องน มีไฟฟ้า น้ำ ห้องน้ำ ห้องส้วมพร้อม ขอความร่วมมือได้โปรดช่วยกัน ใช้น้ำ ไฟ อย่างประหยัด (ไม่ควรเปิดน้ำ ไฟฟ้าและพัดลมทิ้งไว้เมื่อไม่อยู่ในห้องพัก) และโปรด ทำความสะอาดในห้อง หน้าห้อง ห้องน้ำ ห้องส้วม รวมทั้งดูแลรักษา ของใช้ประจำห้อง ก่อนส่งคือเจ้าหน้าที่เมื่อเลิกปฏิบัติ
- ให้ผู้เข้าปฏิบัติ เซ็นยืมของใช้ประจำห้อง และตรวจสอบให้ครบถ้วนพร้อมให้เจ้าหน้าที่เซ็นรับ เมื่อเลิกปฏิบัติ
- ห้ามมิให้ ผู้เข้าปฏิบัติ ให้เงินหรือของมีค่าใดๆ กับเจ้าหน้าที่ ในศูนย์ หากต้องการบริจาค ให้บริจาคที่ฝ่ายการเงินของศูนย์ เพื่อจัดสรรให้เจ้าหน้าที่อย่างเหมาะสมต่อไป
- การรับประทานอาหารมี 2 เวลา และดื่มน้าปานะ 1 เวลาดังนี้
- 07:00 น. รับประทานอาหารเช้า
- 11:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
- 17:00 น. ดื่มน้ำปานะ
- นักปฏิบัติจะต้องไม่นำของมีค่าติดตัวมาด้วย หากสูญหาย ทางศูนย์ฯ จะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
- กรณีมีผู้มาเยี่ยมจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เสียก่อน การเยี่ยมนั้นให้แขกคุยได้ไม่เกิน 15 นาที และเข้าเยี่ยมได้ที่ตึกอำนวยการเท่านั้น ห้ามเข้าไปชวนคุย ทั้งในห้องหรือตามที่ต่างๆ
- ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติไม่สามารถปฏิบัติตามกฏ ระเบียบ ดังกล่าวข้างต้น และได้รับการตักเตือนจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ หรือวิปัสสนาจารย์ผู้สอนแล้ว แต่ยังคงประพฤติเช่นเดิมอยู่ ผุ้ปฏิบัติยินยอมที่จะออกจากศูนย์ ฯ โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น และทางศูนย์ จะพิจารณาพิจารณาที่จะไม่รับผู้ปฏิบัติฝ่าฝืนกฏ ระเบียบและข้อบังคับเป็นนิจ ในการเข้าปฏิบัติครั้งต่อๆ ไป ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ วิปัสสนาจารย์ผู้สอน
กฎระเบียบการใช้ห้องและกุฏิกัมมัฏฐานของพระภิกษุและโยคี
- ห้ามพูดคุยสนทนากันทั้งในบริเวณภายในและภายนอกกุฏิในเขตปฏิบัติธรรม ยกเว้น กรณีที่จำเป็น เช่นเรื่องที่อาจเกิดอันตรายทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ตัวอย่างเช่นเห็นงูเข้าไปในกุฏิ หรือว่าไม้กำลังจะล้มทับกุฏิที่พักที่เพื่อนอาศัยอยู่หรือว่าป่วยจนลุกไม่ไหวหรือไม่มีแรงเดินไปบอกใครได้ ให้เรียกเพื่อนข้างๆห้องให้ช่วยเหลือได้
- ห้ามสนทนาธรรม,สอนกัมมัฏฐาน,สอนอิริยาบถย่อยกันเองหรืออื่นๆในเขตปฏิบัติธรรมและต้องไม่ใช้เสียงห่างจากตัว ห้ามส่งเสียงและทำกิจกรรม อันเกิดเสียงดังรบกวนผู้อื่น ยกเว้นกรณีเสียงจากงานที่จำเป็น
- ห้ามใช้กุฏิรับแขก และห้ามขึ้นไปบนกุฏิผู้อื่น ยกเว้น พระวิปัสสนาและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องช่วยเหลือโยคีในกิจบางอย่างและต้องขึ้นไปสองรูป/คน ห้ามขึ้นไปรูป/คนเดียว
- ต้องบิณฑบาตทุกวัน ยกเว้น วันที่ศูนย์ฯประกาศว่าไม่ต้องบิณฑบาตนอกวัด หรือกรณีเจ็บป่วย หรือพระวิปัสสนาจารย์ให้เก็บอารมณ์,ในวันอาทิตยธรรมสวนาทุกรูปต้องมารับบาตรตอนเช้า ๐๗.๓๐น. ที่ศาลาต้นไม้เมื่อขึ้นไปนั่งบนอาสนะแล้วไม่ควรลุกไปทำธุระอื่นอีกในขณะทำพิธี ยกเว้น ป่วยกะทันหันหรือจำเป็นต้องไปถ่ายหนักถ่ายเบาอย่างปัจจุบันทันด่วน หรือต้องลงไปทำธุระที่สำคัญยิ่ง ถ้าไม่ลงไปแล้วศูนย์ฯจะเกิดเสียหายอย่างร้ายแรง(ยกเว้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายโสต)ให้ลงมาแก้ปัญหาได้ เสร็จแล้วต้องกลับไปนั่งทันที
- พระภิกษุที่เข้าคอร์สต้องมาฟังธรรม ทุกวันพระ ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำและ ๑๕ ค่ำ เวลา ๐๙.๐๐น.ที่ศาลาต้นไม้หรือที่ทางศูนย์ฯจัดไว้ให้ ถ้าวันพระไหนตรงกับวันอาทิตย์หรือตรงกับวันที่พระไม่ได้บิณฑบาตนอกวัด ให้โยคีมารับศีล/ฟังธรรมเวลา ๐๕.๐๐น.
- ปลงผมทุกวันพระกลางเดือนและสิ้นเดือน และมาฟังพระปาฏิโมกข์ เวลา ๑๕.๐๐น. ถ้ามาฟังไม่ได้ให้ฝากภิกษุอื่น นำฉันทะและปาริสุทธิศีล มาแจ้งแก่คณะสงฆ์ในอุโบสถ
- ขณะที่ออกจากกุฏิหรือห้องพักเพื่อทำกิจต่างๆ ต้องกำหนดอิริยาบถย่อยอย่างต่อเนื่องและต้องใส่กุญแจล๊อคกุฏิหรือห้องพักทุกครั้ง ยกเว้น เมื่อลงมาเดินบริเวณใกล้กุฏิหรือห้องพัก
- เมื่อจบคอร์สหรือเมื่อออกจากการปฏิบัติแล้ว ให้ทำความสะอาดกุฏิหรือห้องพักให้เรียบร้อยอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและแจ้งรายละเอียด อุปกรณ์ที่ขาดหรือชำรุดของห้องแก่เจ้าหน้าที่ธุรการได้ลงบันทึกเก็บข้อมูลไว้ ต้องคืนห้องให้กับทางศูนย์ฯ ภายใน ๓วัน และถ้าไม่สามารถนำของส่วนตัวกลับไปได้ทั้งหมด ให้เขียนชื่อและที่อยู่ไว้ที่ของนั้น และนำของนั้นมาไว้ที่ส่วนกลางพร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ธุรการได้รับทราบ
- ผู้ที่ไม่ใช่พระวิปัสสนาจารย์,วิปัสสนาจารย์,ครูพี่เลี้ยง,หรือเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ถ้าไม่ได้อยู่ในศูนย์ฯเกิน ๑๕ วันขึ้นไป ต้องทำความสะอาดกุฏิหรือห้องพักให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ และให้คืนกุฏิหรือห้องพักแก่ศูนย์ฯ หากมีของใช้หรืออุปกรณ์อื่นๆให้นำมาฝากที่ธุรการส่วนกลาง
- ห้ามติดต่อสื่อสารหรือใช้เครื่องมือสื่อสาร หากมีความจำเป็นต้องใช้ต้องแจ้งวิปัสสนาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ห้ามโทรศัพท์ในเขตกัมมัฏฐานทุกกรณี ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่
- ห้ามให้อาหารสัตว์ในระหว่างเข้าปฏิบัติกัมมัฏฐานเด็ดขาด ผู้ใช้กุฏิและห้องพักไม่ควรดัดแปรงต่อเติมกุฏิเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ควรไปขออนุญาตจากเจ้าอาวาสก่อน ไม่ควรขุดดินบริเวณกุฏิ ถ้าจะตัดต้นไม้กิ่งไม้บนหลังคาให้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ธุรการ ห้ามตัดเองเด็ดขาด
- หากมีความจำเป็นต้องสั่งซื้อของให้แจ้งวิปัสสนาจารย์ในวันส่งอารมณ์เท่านั้น ในกรณีเจ็บป่วยกะทันหันให้ไปแจ้งที่ธุรการ
- ทางศูนย์ฯขอสงวนสิทธิ์ในการรับข่าวสารข้อมูลจากบุคคลภายนอก จะแจ้งแก่โยคีเฉพาะเรื่องสำคัญ
- ห่มผ้าในพิธีต้องรัดอก และบิณฑบาตต้องสะพายบาตรที่ไหล่ซ้าย โดยเอาสายซ่อนไว้ในใต้เกรียวผ้า(ลูกบวบ) ๑๔.๑ ในวันอาทิตยธรรมสวนา ๑๔.๒ ในวันอุโบสถ ฟังพระปาฏิโมกข์ ๑๔.๓ ในวันที่มีกิจนิมนต์ ๑๔.๔ ในวันสำคัญทางศาสนา,วันสำคัญของศูนย์ฯ,และวันสำคัญของบ้านเมือง
- พระภิกษุสามเณรที่ไม่ได้เข้ากัมมัฏฐานทุกรูปต้องมาฉันเช้า (๐๗.๒๐) และเพล (๑๑.๐๐) ที่โรงอาหารเท่านั้น (กรณีบุญวันอาทิตย์และไม่ได้บิณฑบาตนอกวัดให้มาฉัน (๐๗.๐๐) ยกเว้นแผนกโสตตรวจสอบเครื่องเสียงและภาพให้มาฉันช้ากว่าปกติได้)
- ภัตตาหารที่เหลือจากพระภิกษุแล้ว ให้สามเณรหยิบไปแค่พอฉันเท่านั้น ต่อจากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่ ที่ขับรถไปรับบิณฑบาตช่วยพระ จากนั้นก็ให้ใส่ปิ่นโตโยคี เหลือจากนั้นให้เจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯหรือแขกที่มาร่วมรับประทานอาหารถ้ายังมีเหลือให้แบ่งให้เด็ก จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะนำอาหารไปเลี้ยงสัตว์
การปฏิบัติธรรมแบบหมู่คณะ
มีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแผ่ธรรมะ และหลักการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้กลุ่มบุคคล โรงเรียน สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานที่ต้องการนำนักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่ มาปฏิบัติธรรมร่วมกันเป็นหมู่คณะ ในวาระ ในโอกาสต่างๆ ตามสมควร
เป็นลักษณะการจัดการการศึกษาแบบสงเคราะห์ แบ่งตามเวลาได้ 2 แบบ ดังนี้
แบบแรก ใช้เวลา 1 วัน มาเช้าเย็นกลับ ให้ได้รู้จักการฟังธรรม
และฟังการปฏิบัติธรรมเพียงเล็กน้อย รับสมัครได้คณะละไม่เกิน 200 คน
แบบที่สอง ใช้เวลาตั้งแต่ 3-15 วัน เพื่อให้ได้ลงมือปฏิบัติจริง รับสมัครได้คณะละไม่เกิน 100 คน
ผู้สนใจให้ติดต่อขอเข้าปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
- หมู่คณะที่สนใจให้ติดต่อศูนย์ก่อนวันปฏิบัติอย่างน้อย 2 เดือน
- คณะผู้ปฏิบัติของนักเรียน นักศึกษา ต้องมีคุณครู อาจารย์มาควบคุมนักเรียนขณะที่อยู่ปฏิบัติที่ศูนย์
- ผู้ปฏิบัติที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เป็นลายลักษณ์อักษร
- คณะผู้ปฏิบัติ นักเรียน นักศึกษา ผู้ปฏิบัติต้องรับรู้และเข้าใจว่ามาปฏิบัติอะไร และต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไรบ้าง
ปรับปรุง ณ วันที่ 2022-11-05